เผยภาพ X-Ray น้องฟ้า เหยื่อเจ๊กั้ง กระดูกหักทั่วร่าง ไม่ได้รักษาอย่างถูกต้อง

เผยภาพ X-Ray น้องฟ้า เหยื่อเจ๊กั้ง กระดูกหักทั่วร่าง ไม่ได้รักษาอย่างถูกต้อง

ทนายเกิดผล แก้วเกิด เผยภาพเอ็กซ์เรย์ สุดสะเทือนใจ น้องฟ้า เหยื่อเจ๊กั้ง-สามี ถูกทำร้ายร่างกายซ้ำ ๆ ติดต่อกันจนกระดูกแตกหักทั่วร่าง ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ปล่อยกระดูกเชื่อมต่อเองจนผิดรูป 21 ธ.ค. 64 คืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ ที่น้องฟ้า ถูกเจ๊กั้งทำร้ายร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานานจนส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ล่าสุด ทาง ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายของน้องฟ้า ได้โพสต์ภาพ X-ray ของน้องฟ้าบางส่วน ข้อความว่า

“นี้คือภาพ X-Ray ร่างกายของน้องฟ้า บางส่วน จะพบว่า น้องฟ้า ถูกเจ้กั้ง นายอ้วน นายนพรัตน์ สามีเจ้กั้ง ร่วมกันทำร้ายร่างกายน้องฟ้า จนกระดูกแตกหัก แต่ไม่ได้รับการรักษา

น้องฟ้าต้องทนทุกข์ทรมาน และปล่อยให้บาดแผลหายเอง ตามธรรมขาติ การไม่ได้รับการรักษา และต่อกระดูกอย่างถูกต้อง จนร่างกายรักษาตัวเอง และกระดูกเชื่อมต่อกันโดยธรรมชาติ ทำให้การเชื่อมต่อของกระดูกผิดพลาด และร่างกายผิดรูป

น้องฟ้าถูกทำร้าย จน กระดูกแตกหัก ทั่วร่างกาย ซ้ำๆกัน หลายๆครั้ง ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง คิดดูซิครับว่าจะทุกข์ทรมาน แค่ไหนเมื่อวานตำรวจจับกุม นายนพรัตน์ สามีเจ้กั้งเพิ่ม 1 คน รวมทั้งสิ้นตอนนี้ มีผู้ต้องหา 3 คน

วันนี้ (21 ธ.ค 64) เวลา 10.30 น. ผมจะพาน้องฟ้า ไปคัดทะเบียนพาณิชย์ ที่เทศบาลอินทร์บุรี ที่เจ้กั้ง ให้น้องฟ้าไปจดทะเบียนการค้า ในนาม ร้าน ฟ้อนต์ ดีไซด์ จิรวัฒ์ เล้าสุวรรณ แล้วให้น้องฟ้าไปเปิดบัญชี มีเงินหมุนเวียร 2 บัญชี รวม 13 ล้านบาทเศษ

และผมกับน้องฟ้า จะนำเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไปร้องต่อสรรพากรจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เจ้กั้ง / สามีเจ้กั้ง ว่า มีการใช้บัญชีน้องฟ้าทำธุรกรรมทางการเงิน หรือกระทำการอื่นใด ในการหลักเลี่ยงภาษี หรือ กระทำผิดอื่นๆ โดยแอบอ้างชื่อน้องฟ้า หรือไม่ ⁉ และหากพบความผิด ผมจะดำเนินคดี เจ้กั้งกับพวก ตามกฎหมาย ต่อไป‼”

ผอ. โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต ประกาศถึงการเตรียมดำเนินการฉีด วัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 ภายในช่วงต้นปี 2565 สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนสูตร SV+SP+AZ

ภูเก็ต, วัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 – (21 ธ.ค. 2564) นายแพทย์ วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้ทำการเปิดเผยถึงการเตรียมการเปิดให้มีการฉีด วัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นที่ 4 สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนในรูปแบบซิโนแวค + ซิโนแวค + แอสตร้าซิเนก้า ไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยจะเริ่มดำเนินการได้ภายในช่วงต้นปี 2565

‘ประยุทธ์’ ปิดรับนักท่องเที่ยวใหม่ สกัดโอมิครอน มีผลแล้ววันนี้

ประยุทธ์ เผยที่ประชุมมีมติ ดรับนักท่องเที่ยวใหม่ สกัดโอมิครอน มีผลแล้ววันนี้ ขณะที่เฝ้าระวังนักท่องเที่ยวอีก 200,000 ที่เข้ามาแล้วและกำลังจะเข้าไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุม ศบค. ซึ่งมีการหารือถึงมาตรการโควิด-19 หลังจากที่มีการค้นพบโควิดโอมิครอนแพร่ระบาดมากขึ้น

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตนในฐานะประธานก็ต้องพิจารณาไปในรายละเอียด แต่แนวทางกาปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติมีอยู่แล้ว สรุปง่ายๆขณะนี้คนที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย 1.1 แสนคน ที่เข้ามาแล้ว ทั้งช่องทางแซนด์ บ็อกซ์ และเทสต์ แอนด์ โก จากที่ขออนุมัติเข้ามาประมาณ 2 แสนราย

ดังนั้นเหลือประมาณ 9 หมื่นคน ซึ่งเราจำเป็นจะต้องดูแล ติดตาม เพราะได้ขออนุญาตมาก่อนในช่วงที่ผ่านมา แต่จะไม่ให้มีการลงทะเบียนเพิ่มอีกแล้ว จนกว่าจะมีการพิจารณาสถานการณ์ หลังช่วงวันที่ 4 มกราคม 65 ในส่วนของเรื่องความพร้อมในการรับมือโควิดโอมิครอนนั้น ยังรองรับได้ ข้อสำคัญที่สุด คือความรุนแรงยังค่อนข้างจะควบคุมได้อยู่ โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน ติดเชื้อเร็วแต่รักษาได้ง่ายกว่า และไม่มีผลกระทบรุนแรงถึงชีวิตมากนัก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หลังจากวันที่ 4 ม.ค.65 จะไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแล้วใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ไม่รับคนใหม่แล้ว นอกจาก 2 แสนคนที่ขึ้นทะเบียนไว้ ส่วนมาตรการเพิ่มเติมที่จะดูแล 2 แสนคนดังกล่าว ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่ต้องติดตามคนเหล่านี้ ที่เข้ามาจากช่องทางต่างๆ

“เราจะไม่มีการอนุมัติ หรืออนุญาตอีก สำหรับคนไทยที่เข้ามาก็เช่นเดียวกัน ที่มีการยื่นไว้แล้ว หลังจากวันนี้จะต้องเข้ามาในระบบใหม่ คือกลับมาที่เดิม ในเรื่องการกักตัวอะไรต่างๆ 7วัน 10 วันอะไรก็ว่ากัน “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในส่วนของงานปีใหม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังคงจัดได้เหมือนเดิม แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ว่า ที่ประชุม ศบค.มีมติให้ยกเลิกมาตรการเข้าประเทศโดยระบบ Test & Go โดยจะปิดรับการลงทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าและยังไม่เดินทางเข้ามาอีกประมาณ 200,000 คน ยังอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศโดยระบบ Test & Go ตามปกติ ส่วนมาตรการอื่นๆ รวมถึงพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ขอให้ติดตามรายละเอียดจากการข่าวแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการควบคุมโรคภายในประเทศ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่า ประเด็นเรื่องสายพันธุ์โอไมครอนมาจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเป็นหลัก

Credit : delvalptcruisers.com editionslmauguin.com newmexicobuildingguide.com equivatexacomsds.com poraquitambienseentra.com